Browse By

Tag Archives: บาร์เซโลน่า

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก บาร์เซโลน่า 1 – ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 2

ค่ำคืนแห่งศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีก เฟส นัดที่สอง กลายเป็นค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและดราม่า เมื่อบาร์เซโลน่า เปิดสนามเอสตาดิโอ ลุยส์ คอมปานีส์ ต้อนรับการมาเยือนของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และต้องพบกับความผิดหวังเมื่อพ่ายไปด้วยสกอร์ 1-2 ต่อหน้ากองเชียร์เจ้าถิ่นนับหมื่น เสียความได้เปรียบในเกมแรกไปอย่างน่าเสียดาย พร้อมเปิดโอกาสให้สถานการณ์ในกลุ่มกลับมาสนุกอีกครั้ง ตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มเกม ทั้งสองทีมต่างแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงที่ชัดเจนในการคว้าชัยชนะ บาร์เซโลน่าภายใต้การคุมทีมของชาบี เอร์นานเดซ ยังคงยึดแนวทางการครองบอลและต่อเกมอย่างมีระบบ ในขณะที่ปารีสของหลุยส์ เอ็นริเก้ อดีตกุนซือบาร์ซ่า ใช้แท็กติกการบีบพื้นที่สูงและการโจมตีสวนกลับที่รวดเร็ว เกมเปิดหน้าแลกกันตั้งแต่นาทีแรกและเต็มไปด้วยจังหวะหวาดเสียวจากทั้งสองฝั่ง ในช่วงต้นเกม บาร์เซโลน่าเริ่มต้นได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาครองบอลได้ถึง 70% ในช่วง 15 นาทีแรก และสร้างโอกาสจากการประสานงานระหว่างเปดรี้, อิลคาย กุนโดกัน และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่พยายามหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมพอ

หลุยส์ ฟิโก้ เดินทางมาชมเกมระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

หลุยส์ ฟิโก้ ชม เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความคึกคักและเต็มไปด้วยอารมณ์แห่งฟุตบอล เมื่อบาร์เซโลน่า เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีกเฟส แต่สิ่งที่ทำให้แฟนบอลพูดถึงไม่แพ้เกมในสนามคือการปรากฏตัวของ “หลุยส์ ฟิโก้” ตำนานชาวโปรตุเกสที่เคยเป็นทั้งฮีโร่และบุคคลผู้ถูกโห่จากแฟนบาร์ซ่าในช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ การที่ฟิโก้เดินทางมาชมเกมครั้งนี้สร้างเสียงฮือฮาในโลกฟุตบอล เพราะอดีตปีกระดับตำนานรายนี้ไม่ค่อยปรากฏตัวในสนามของบาร์เซโลน่ามานานหลายปีนับตั้งแต่เหตุการณ์อื้อฉาวเมื่อปี 2000 ที่เขาตัดสินใจย้ายจากบาร์ซ่าไปอยู่กับเรอัล มาดริด ซึ่งเป็นหนึ่งในดีลที่สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลเจ้าบุญทุ่มมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร แต่ครั้งนี้ การกลับมาของฟิโก้ในฐานะแขกพิเศษของยูฟ่า ถูกตีความว่าเป็นสัญญาณแห่งความสงบและการคืนดีในเชิงสัญลักษณ์ ตามรายงานของสื่อสเปน El País และ Marca ระบุว่า ฟิโก้ได้รับเชิญจากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ในฐานะทูตกิตติมศักดิ์ของการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้มาชมเกมที่บาร์เซโลน่าพบกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งถือเป็นเกมระดับบิ๊กแมตช์ที่มีความหมายในหลายแง่มุม ทั้งเชิงฟุตบอลและประวัติศาสตร์ของสองสโมสรที่มีชื่อเสียงระดับโลก ฟิโก้เดินทางมาพร้อมครอบครัวและเพื่อนสนิท โดยมีภาพปรากฏขณะเขาเดินเข้าสนามพร้อมรอยยิ้มและโบกมือทักทายผู้ชมในอัฒจันทร์ฝั่งวีไอพี ภาพดังกล่าวกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็วในโซเชียลมีเดีย

เฟรงกี้ เดอ ย็อง เตรียมเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ บาร์เซโลน่า

เฟรงกี้ เดอ ย็อง มิดฟิลด์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ของบาร์เซโลน่า เตรียมจรดปากกาเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัดภายในสัปดาห์หน้า หลังจากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเป็นการต่อสัญญายาวออกไปจนถึงปี 2029 พร้อมปรับโครงสร้างค่าเหนื่อยใหม่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงินของสโมสรในปัจจุบัน ข่าวดีนี้สร้างความยินดีให้กับแฟนบอล “อาซูลกราน่า” อย่างมาก เพราะเดอ ย็องถือเป็นหนึ่งในแกนหลักของทีมชุดปัจจุบัน และถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญในแผนการระยะยาวของบาร์เซโลน่าภายใต้การคุมทีมของชาบี เอร์นานเดซ รายงานจากสื่อสเปน Mundo Deportivo และ Sport ยืนยันตรงกันว่าการเจรจาทั้งหมดใกล้เสร็จสมบูรณ์ เหลือเพียงการตรวจสอบรายละเอียดด้านเอกสารก่อนจะประกาศอย่างเป็นทางการภายในไม่กี่วันข้างหน้า บาร์เซโลน่าเริ่มต้นการเจรจากับเดอ ย็องตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยเป้าหมายหลักคือการขยายสัญญาและปรับลดภาระค่าเหนื่อยของนักเตะบางส่วนลง เพื่อให้สอดคล้องกับกฎการเงินของลาลีกา ซึ่งกำหนดเพดานค่าใช้จ่ายต่อทีมไว้อย่างเข้มงวด หลังจากที่สโมสรต้องเผชิญปัญหาทางการเงินอย่างหนักในช่วงสองปีหลัง แต่สิ่งที่ทำให้การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่นคือความตั้งใจของเดอ ย็องเองที่ต้องการอยู่กับทีมต่อไป แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการเจรจาเปิดเผยว่า เดอ ย็องยินดีลดค่าเหนื่อยบางส่วนลงเพื่อช่วยให้สโมสรสามารถบริหารการเงินได้อย่างสมดุล โดยจะเปลี่ยนโครงสร้างสัญญาให้มีโบนัสตามผลงานและความสำเร็จของทีมมากขึ้น แทนที่จะเป็นค่าเหนื่อยคงที่แบบเดิม ซึ่งสะท้อนถึงความจงรักภักดีและความผูกพันของนักเตะต่อสโมสรอย่างแท้จริง “เฟรงกี้ต้องการอยู่กับบาร์เซโลน่ามาโดยตลอด เขาไม่เคยคิดถึงการย้ายทีมเลยแม้แต่ครั้งเดียว” แหล่งข่าวกล่าวกับ ESPN ย้อนกลับไปในปี 2022 เดอ ย็องเคยตกเป็นข่าวอย่างหนักว่าจะถูกขายออกจากทีมเพื่อลดภาระค่าเหนื่อย

มิลานหวังคว้า เลวานดอฟสกี้

เอซี มิลาน สโมสรแห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี กำลังตกเป็นข่าวอย่างหนักว่ากำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการคว้าตัว โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าทีมชาติโปแลนด์ของบาร์เซโลน่า มาร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์หน้า เพื่อเสริมแนวรุกและเพิ่มประสบการณ์ให้กับทีมที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่ ข่าวดังกล่าวเริ่มต้นจากรายงานของสื่อสเปนชื่อดัง Mundo Deportivo ที่เปิดเผยว่า เลวานดอฟสกี้เริ่มพิจารณาอนาคตของตัวเองหลังจากบาร์เซโลน่ากำลังเผชิญปัญหาด้านการเงินอย่างต่อเนื่อง และทีมมีแนวโน้มจะปรับโครงสร้างค่าเหนื่อยของนักเตะอีกครั้งในฤดูกาลหน้า ซึ่งอาจทำให้กองหน้าชาวโปแลนด์รายนี้ต้องย้ายออกไปหาความท้าทายใหม่ในช่วงบั้นปลายอาชีพ โดยหนึ่งในสโมสรที่แสดงความสนใจอย่างจริงจังคือ เอซี มิลาน ที่มองว่าเลวานดอฟสกี้จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในแผนลุ้นแชมป์เซเรีย อา ฤดูกาลหน้า สำหรับมิลาน การเสริมกองหน้าคือภารกิจสำคัญที่สุดในตลาดซื้อขายที่จะถึงนี้ เนื่องจากทีมกำลังมองหาตัวแทนระยะยาวของโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่อายุเข้าสู่ 38 ปี และมีแนวโน้มจะย้ายไปค้าแข้งในเมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ สหรัฐอเมริกา หลังจบฤดูกาล ขณะที่กองหน้าดาวรุ่งอย่างโนอาห์ โอคาฟอร์ และลูก้า โยวิช ยังไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักได้อย่างเต็มตัว การได้หัวหอกระดับตำนานอย่างเลวานดอฟสกี้เข้ามาเสริมจึงถูกมองว่าเป็นทางออกที่ทั้งเพิ่มประสบการณ์และความเฉียบคมในแดนหน้า รายงานจากอิตาลีระบุว่า เปาโล สคาโรนี่

อินญีโก้ มาร์ตีเนซ : สัญญามูลค่า 40 ล้านยูโรจากอัล-นาสเซอร์

โลกฟุตบอลสมัยใหม่เต็มไปด้วยการเคลื่อนไหวที่พลิกผันอยู่เสมอ และหนึ่งในข่าวที่สร้างแรงสั่นสะเทือนล่าสุดคือการที่ อินญีโก้ มาร์ตีเนซ ปราการหลังทีมชาติสเปน วัย 33 ปี ตัดสินใจโบกมือลา บาร์เซโลน่า เพื่อย้ายไปสู่ลีกซาอุดีอาระเบียกับ อัล-นาสเซอร์ ด้วยสัญญา 2 ปี มูลค่ามหาศาลถึง 40 ล้านยูโร นี่ไม่ใช่แค่การย้ายทีมธรรมดา แต่คือสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงทิศทางในเส้นทางอาชีพของนักเตะคนหนึ่ง ซึ่งต้องเลือกระหว่างความท้าทายในเวทียุโรป กับผลตอบแทนทางการเงินมหาศาลที่ยากปฏิเสธ โปรไฟล์ของอินญีโก้ มาร์ตีเนซ อินญีโก้เกิดเมื่อปี 1991 ที่บาสก์ ประเทศสเปน เริ่มต้นอาชีพกับ เรอัล โซเซียดาด และสร้างชื่อจากการเป็นกองหลังสายแข็งที่มีความนิ่งในการอ่านเกม เขามีจุดเด่นในลูกกลางอากาศ การเข้าปะทะ และการวางบอลยาวจากแนวหลัง ต่อมาเขาย้ายไป แอธเลติก บิลเบา ซึ่งทำให้ชื่อเสียงยิ่งใหญ่ขึ้น ก่อนจะได้รับโอกาสทองกับ บาร์เซโลน่า ในวัยที่หลายคนมองว่าคือการเติมประสบการณ์ในแนวรับ อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่คัมป์นูไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เนื่องจากการเจ็บรบกวนและการแย่งตำแหน่งที่ดุเดือด